วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ธนาคารกรุงเทพ รายงานกำไรสุทธิ 6 เดือนแรกปี 2558 จำนวน 17,442 ล้านบาท

21 กรกฎาคม 2558

ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับครึ่งแรกปี 2558 จำนวน 17,442 ล้านบาท ลดลง 552 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.1 จากช่วงเดียวกันปี 2557 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 1,576 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.4 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 4,181 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.3 และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 1,587 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.8

ในครึ่งแรกปี 2558 ความไม่แน่นอนในระบบเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับต่ำส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องต่อการฟื้นตัวของภาคส่งออกของไทย ขณะที่การบริโภคภาคครัวเรือนและการลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยภาคธุรกิจยังคงชะลอการลงทุนใหม่ออกไปเพื่อรอสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น แม้จะมีการเร่งตัวของการลงทุนภาครัฐและการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการ
ท่องเที่ยว ปัจจัยเหล่านี้ได้ส่งผลให้สินเชื่อของธนาคารขยายตัวเล็กน้อยจากปี 2557 โดยเพิ่มขึ้น 7,383 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.4 เป็น 1,789,616 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558

ด้านคุณภาพเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 55,126 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อร้อยละ 2.5 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.2 ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงเน้นการบริหารความเสี่ยงด้านคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ด้วยการให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือลูกค้าอย่างใกล้ชิดและ
ต่อเนื่อง อีกทั้งธนาคารมีเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระดับสูงซึ่งจะช่วยรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้

สำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 ธนาคารมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 5,901 ล้านบาท ทำให้ธนาคารมีอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพคิดเป็นร้อยละ 170.4 และมีอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อรวมที่ร้อยละ 5.2

ด้านสภาพคล่อง ธนาคารยังคงเน้นการบริหารสภาพคล่องให้เพียงพอต่อความต้องการเงินทุนของลูกค้า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 ธนาคารมีเงินฝากจำนวน 2,128,102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69,323 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.4 จากสิ้นปี 2557 ส่งผลให้ธนาคารมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากลดลงจากร้อยละ 86.6 ณ สิ้นปี 2557 เป็นร้อยละ 84.1 ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2558

ในครึ่งแรกปี 2558 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 27,452 ล้านบาท และมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ
อยู่ที่ร้อยละ 2.08 ลดลงจากร้อยละ 2.37 ในครึ่งหลังปี 2557 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลง และส่วนหนึ่งเป็นผลจากต้นทุนและปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้นมากกว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนสินเชื่อและปริมาณสินเชื่อ

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในครึ่งแรกปี 2558 มีจำนวน 22,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,181 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเงินลงทุนจำนวน 2,485 ล้านบาท และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 1,331 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.7 ซึ่งส่วนมากเพิ่มขึ้นจาก
ค่าธรรมเนียมจากการรับประกันการจัดจำหน่ายตราสารทางการเงิน ค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจำหน่ายและจัดการกองทุนรวม และค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักทรัพย์

ธนาคารมีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานในครึ่งแรกปี 2558 จำนวน 21,959 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,587 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.8 จากช่วงเดียวกันปี 2557 โดยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และค่าใช้จ่ายเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ธนาคารมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่
ร้อยละ 44.3 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 43.4 ในครึ่งแรกปี 2557

ด้านเงินกองทุน หากนับรวมกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 เข้าเป็นเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยจะอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 18.5 ร้อยละ 16.4 และร้อยละ 16.4 ตามลำดับ

ส่วนของเจ้าของ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีจำนวน 349,823 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.2 ของสินทรัพย์รวม และมูลค่าตามบัญชีเท่ากับ 183.27 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 13.80 บาท จากสิ้นปี 2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น