วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558

2 ธนาคารใหญ่ กรุงเทพ และไทยพาณิชย์ ลงนามสนับสนุนทางการเงิน
 วงเงิน 8,000 ล้านบาท ให้แก่ บริษัท เซนจูรี่ ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด

27 กรกฎาคม 2558

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ที่ 2 จากซ้าย) และ
นายญนน์ โภคทรัพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (ที่ 2 จากขวา) ร่วมลงนามกับนายฉิน หลง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ชิงเต่า เซนจูรี่ ไทร์ (จำกัด) (ที่ 3 จากขวา) และ ดร.หลักชัย กิตติพล ประธานกรรมการบริหาร (CEO) บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด (มหาชน) (ที่ 3 จากซ้าย) ในสัญญาสนับสนุนวงเงินกู้ร่วม (Syndicated Loan) มูลค่า 8,000 ล้านบาท ให้แก่บริษัท เซนจูรี่ ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่จากประเทศจีน ชิงเต่า เซนจูรี่ ไทร์ (Qingdao Sentury Tire) ในการลงทุน
ตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์ ขนาดกำลังการผลิต 10 ล้านเส้นต่อปี ที่จังหวัดระยอง โดยมีนายคณิต สีห์ ผู้ช่วย
ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ซ้าย) และนายสารัชต์ รัตนาภรณ์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหาร
สูงสุด Client Acquisition ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (ขวา) ร่วมในพิธี สำหรับ เซนจูรี่ ไทร์ เป็นผู้ผลิตยางรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากเมืองชิงเต่า มณฑลชานตง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยล่าสุดในการผลิตยางรถยนต์เพื่อผลิตยางรถยนต์คุณภาพสูงและมีเทคโนโลยีที่พร้อม
ถึงขั้นผลิตล้อยางเครื่องบิน นอกจากนั้น ยังเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่จากจีน รายที่ 3 ที่เข้ามาลงทุนขยายการผลิตที่ประเทศไทย
ธนาคารกรุงเทพ รายงานกำไรสุทธิ 6 เดือนแรกปี 2558 จำนวน 17,442 ล้านบาท

21 กรกฎาคม 2558

ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับครึ่งแรกปี 2558 จำนวน 17,442 ล้านบาท ลดลง 552 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.1 จากช่วงเดียวกันปี 2557 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 1,576 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.4 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 4,181 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.3 และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 1,587 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.8

ในครึ่งแรกปี 2558 ความไม่แน่นอนในระบบเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับต่ำส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องต่อการฟื้นตัวของภาคส่งออกของไทย ขณะที่การบริโภคภาคครัวเรือนและการลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยภาคธุรกิจยังคงชะลอการลงทุนใหม่ออกไปเพื่อรอสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น แม้จะมีการเร่งตัวของการลงทุนภาครัฐและการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการ
ท่องเที่ยว ปัจจัยเหล่านี้ได้ส่งผลให้สินเชื่อของธนาคารขยายตัวเล็กน้อยจากปี 2557 โดยเพิ่มขึ้น 7,383 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.4 เป็น 1,789,616 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558

ด้านคุณภาพเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 55,126 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อร้อยละ 2.5 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.2 ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงเน้นการบริหารความเสี่ยงด้านคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ด้วยการให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือลูกค้าอย่างใกล้ชิดและ
ต่อเนื่อง อีกทั้งธนาคารมีเงินสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในระดับสูงซึ่งจะช่วยรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้

สำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 ธนาคารมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 5,901 ล้านบาท ทำให้ธนาคารมีอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพคิดเป็นร้อยละ 170.4 และมีอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อรวมที่ร้อยละ 5.2

ด้านสภาพคล่อง ธนาคารยังคงเน้นการบริหารสภาพคล่องให้เพียงพอต่อความต้องการเงินทุนของลูกค้า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 ธนาคารมีเงินฝากจำนวน 2,128,102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69,323 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.4 จากสิ้นปี 2557 ส่งผลให้ธนาคารมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากลดลงจากร้อยละ 86.6 ณ สิ้นปี 2557 เป็นร้อยละ 84.1 ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2558

ในครึ่งแรกปี 2558 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 27,452 ล้านบาท และมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ
อยู่ที่ร้อยละ 2.08 ลดลงจากร้อยละ 2.37 ในครึ่งหลังปี 2557 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลง และส่วนหนึ่งเป็นผลจากต้นทุนและปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้นมากกว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนสินเชื่อและปริมาณสินเชื่อ

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในครึ่งแรกปี 2558 มีจำนวน 22,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,181 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเงินลงทุนจำนวน 2,485 ล้านบาท และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 1,331 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.7 ซึ่งส่วนมากเพิ่มขึ้นจาก
ค่าธรรมเนียมจากการรับประกันการจัดจำหน่ายตราสารทางการเงิน ค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจำหน่ายและจัดการกองทุนรวม และค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักทรัพย์

ธนาคารมีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานในครึ่งแรกปี 2558 จำนวน 21,959 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,587 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.8 จากช่วงเดียวกันปี 2557 โดยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และค่าใช้จ่ายเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ธนาคารมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่
ร้อยละ 44.3 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 43.4 ในครึ่งแรกปี 2557

ด้านเงินกองทุน หากนับรวมกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 เข้าเป็นเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยจะอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 18.5 ร้อยละ 16.4 และร้อยละ 16.4 ตามลำดับ

ส่วนของเจ้าของ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีจำนวน 349,823 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 12.2 ของสินทรัพย์รวม และมูลค่าตามบัญชีเท่ากับ 183.27 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 13.80 บาท จากสิ้นปี 2557
ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับสถานทูตจีน จัดสัมมนา The Chinese Link Forum หัวข้อ
"The Age of the Redback – How to Save Millions by RMB Settlement"

20 กรกฎาคม 2558

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ที่ 5 จากขวา) นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ (ที่ 2 จากขวา) นายวีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ รองผู้จัดการใหญ่ (ขวา) นายคณิต สีห์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่
(ที่ 2 จากซ้าย) และนายกนกศักดิ์ โมกขมรรคกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ซ้าย) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ นายหนิง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย (กลาง) ร่วมให้การต้อนรับ ดร.ติงจื้อเจี๋ย นักเศรษฐศาสตร์ ดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้ช่วยอธิการบดีและรองผู้อำนวยการสถาบันบัณฑิตศึกษา University of International Business and Economics (ที่ 3 จากขวา) ที่ให้เกียรติเป็นวิทยากรในงานสัมมนา The Chinese Link Forum ในหัวข้อ "The Age of the Redback – How to Save Millions by RMB Settlement" ที่ทางธนาคารกรุงเทพและสถาน
เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยจัดขึ้น เพื่อนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับ
กลุ่มนักธุรกิจไทยและจีนเกี่ยวกับการใช้สกุลเงินหยวนในการทำธุรกรรมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
ธนาคารกรุงเทพ สนับสนุนโครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ต่อเนื่องปีที่ 10 
เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจที่เป็นประโยชน์ต่อสื่อมวลชน

14 กรกฎาคม 2558

นายเดชา ตุลานันท์ รองประธานกรรมการบริหาร (ที่ 2 จากซ้าย) และนายอภิวัฒน์ ปุณโณปกรณ์ เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Vice President ฝ่ายการประชาสัมพันธ์ (ซ้าย) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุนจำนวน 1,500,000 บาท (หนึ่งล้านห้าแสนบาท) แก่นายธิวา สุดใจ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ (ที่ 2 จากขวา) และคณะกรรมการสมาคมฯ เพื่อใช้ในโครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระดับสูง (พศส.) ประจำปี 2558 โดยมีหม่อมราชวงศ์ ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นสักขีพยานและเป็นวิทยากรกิตติมศักดิ์บรรยายในหัวข้อ “ภาพรวมการฟื้นตัว และแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย” ทั้งนี้ธนาคารกรุงเทพได้ร่วมกับสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจสร้างสรรค์โครงการดังกล่าวและให้การสนับสนุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจที่เป็นประโยชน์ต่อสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสารไปสู่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหัวข้อเกี่ยวกับเออีซี ซึ่งเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจและมีผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของสังคม
ธนาคารกรุงเทพ จัดงานสัมมนา Trade Expert Forum 2015 "Update 
เศรษฐกิจไทยมองไกลเศรษฐกิจโลก"

13 กรกฎาคม 2558

นางพรนิจ ตุลย์วัฒนจิต ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 3 จากขวา) นายบุญเกรียง ธนาพันธ์สิน ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่
(ที่ 3 จากซ้าย) นายบุญสันต์ ประสิทธิ์สัมฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 2 จากขวา) นายขจรศักดิ์ มานะวิริยะกุล ผู้จัดการศูนย์ปฏิบัติการธุรกิจส่งออกและนำเข้า (ที่ 2 จากซ้าย) และผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมให้การต้อนรับ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง (ที่ 4 จากขวา) และนายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (ที่ 4 จากซ้าย) เนื่องในโอกาสร่วมเป็นวิทยากรในงานสัมมนา Trade Expert Forum 2015 เรื่อง "Update เศรษฐกิจไทย มองไกลเศรษฐกิจโลก" ที่ธนาคารจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าผู้ประกอบการทั้ง SME และธุรกิจขนาดใหญ่ที่ใช้บริการด้านการค้าต่างประเทศของธนาคาร ได้รับทราบข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศไทยไปจนถึงเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวทางสำหรับนำไปใช้ในการวางแผนพัฒนาการดำเนินธุรกิจของตนเองให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง นับเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำอย่างเด่นชัดในด้านบริการการค้าต่างประเทศของธนาคาร โดยเน้นการเสริมสร้างภาพลักษณ์การเป็น Expert Partner หรือเพื่อนคู่คิด ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์อันยาวนานที่พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำให้ลูกค้าประสบความสำเร็จและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ธนาคารกรุงเทพ ได้รับยกย่องจาก Timetric เอเชีย ในฐานะธนาคารยอดเยี่ยมด้าน
การพัฒนาเทคโนโลยี – โมบายแบงก์กิ้ง
7 กรกฎาคม 2558

นางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 3 จากขวา) พร้อมคณะผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รับมอบรางวัล "ธนาคารยอดเยี่ยมด้านการพัฒนาเทคโนโลยี – โมบายแบงก์กิ้ง" (Best Technology Implementation - Front End) จาก มร.รูเบน เคมพิเนีย ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค (ซ้าย) Timetric บริษัทชั้นนำด้านผู้ให้บริการข้อมูลออนไลน์ บทวิเคราะห์และคําปรึกษาด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และการตลาด ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก ในการมอบรางวัล The Customer Experience in Financial Services (CXFS) Asia Awards 2015 นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของบริการ "บัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง" ธนาคารทางโทรศัพท์มือถือที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นช่องทางการให้บริการที่มอบความสะดวกสบายและความคล่องตัวแก่ลูกค้าในการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ทั้งการตรวจสอบยอดเงินในบัญชีรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ชำระค่าสินค้าและบริการ รวมถึงการซื้อและขายกองทุนรวม โดยเน้นความง่ายในการใช้งานและมีเมนูไม่ซับซ้อน ทำให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย
ธนาคารกรุงเทพ สนับสนุนสินเชื่อ "ซุปเปอร์บล๊อก" พัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์

3 กรกฎาคม 2558

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ที่ 3 จากขวา) นายวีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ รองผู้จัดการใหญ่ (ที่ 2 จากขวา) และนางณัฐพร เหลืองสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ลงนามร่วมกับ นายจอมทรัพย์ โลจายะ กรรมการบริหาร (ที่ 3 จากซ้าย) กลุ่มบริษัทซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) ในสัญญาสนับสนุนวงเงินสินเชื่อรวม 6,781 ล้านบาท สำหรับใช้ดำเนินโครงการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวนทั้งสิ้น 22 โครงการ กำลังการผลิตรวม 140 เมกะวัตต์ เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้งหมด โดยโครงการจะตั้งอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี สระบุรี พิจิตร ลพบุรี มหาสารคาม พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ฉะเชิงเทรา และหนองบัวลำภู

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ธนาคารกรุงเทพ นำเสนอ "บัวหลวง เวสเทิร์น ยูเนี่ยน กริ๊ง" บริการรับเงินด่วนระหว่างประเทศทางโทรศัพท์
30 มิถุนายน 2558

นายบุญสันต์ ประสิทธิ์สัมฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ที่ 3 จากซ้าย) ร่วมกับ Mr. Atish Shrestha ผู้อำนวยการ เวสเทิร์น ยูเนี่ยน ประจำภูมิภาคอินโดจีน บริษัท เวสเทิร์น ยูเนี่ยน จำกัด
(ที่ 4 จากขวา) ลงพื้นที่เดินตลาดบริเวณเมืองพัทยา นำเสนอบริการ "บัวหลวง เวสเทิร์น ยูเนี่ยน กริ๊ง" ช่องทางใหม่ที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถรับเงินด่วนระหว่างประเทศผ่านทางโทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว ด้วย
ขั้นตอนง่ายๆ เพียงโทร. (66) 0-2680-9588 แจ้งหมายเลขบัญชีธนาคารกรุงเทพ ชื่อนามสกุลที่ต้องการรับเงิน รายละเอียดการรับเงินโอนเวสเทิร์น ยูเนี่ยน จากนั้นธนาคารจะนำเงินเข้าบัญชีเงินฝากของลูกค้าผู้รับเงินที่ลงทะเบียนไว้ ลูกค้าที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครใช้บริการได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ
ธนาคารกรุงเทพ ส่งมอบเงิน 3 ส่วน จำนวน 14.79 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเนปาล ผ่านสภากาชาดไทย
29 มิถุนายน 2558

ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 3 จากซ้าย) พร้อมนายอภิวัฒน์ ปุณโณปกรณ์
เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Vice President ฝ่ายการประชาสัมพันธ์ (ที่ 2 จากซ้าย) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนธนาคารและลูกค้าธนาคารส่งมอบเงินจำนวน 14,791,331.35 บาท (สิบสี่ล้านเจ็ดแสนเก้าหมื่นหนึ่งพันสามร้อยสามสิบเอ็ดบาทสามสิบห้าสตางค์) ให้กับหม่อมราชวงศ์ปรียางค์ศรี วัฒนคุณ ผู้ช่วยเลขาธิการฯ
(ฝ่ายการจัดหารายได้) และผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ (ที่ 3 จากขวา) และนางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ (ที่ 2 จากขวา) สภากาชาดไทย โดยเงินจำนวนดังกล่าวประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ 1. ส่วนของลูกค้าธนาคารกรุงเทพ และบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวงที่มาจากบัญชี "ช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ ประเทศเนปาล" เลขที่ 101-3-45555-3 ที่ธนาคารกรุงเทพเปิดขึ้นเพื่อรองรับการบริจาคเงินจากลูกค้า และประชาชนทั่วไปผ่านช่องทางบริการของธนาคาร พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมในการทำรายการโอนเงินข้ามเขต จำนวน 11,175 รายการ เป็นเงิน 12,662,131.35 บาท 2. ส่วนของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมบริจาคจำนวน 1,000,000.00 บาท และ 3. ส่วนที่ธนาคารกรุงเทพเชิญชวนลูกค้าบัตรเครดิตเปลี่ยนคะแนนสะสมบัวหลวง ทุก 1,000 คะแนน แทนเงินบริจาค 100 บาท โดยธนาคารร่วมสมทบทุนเพิ่มอีก 100 บาท หรือเท่ามูลค่าเงินบริจาค จำนวน 921 ราย ใช้คะแนน 5,646,000 คะแนน คิดเป็นเงิน 564,000 บาท โดยธนาคารร่วมสมทบทุนเพิ่มอีก 564,000 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 1,128,000.00 บาท ทั้งนี้รายการเปลี่ยนแปลงคะแนนสะสมยังคงดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 ผู้ถือบัตรสามารถตรวจสอบคะแนนสะสมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ (66) 0-2638-4000 กด 1522

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธนาคารกรุงเทพ รับมอบ 2 รางวัลจาก The Asian Banker "ยอดเยี่ยมผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
ที่อยู่อาศัย" และ "ยอดเยี่ยมด้านพัฒนาบริการ Mobile Banking"

25 มิถุนายน 2558

ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (กลาง) และนางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 2 จากขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) รับมอบรางวัล "ธนาคารยอดเยี่ยมผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัย (Best Mortgage Product in Thailand)" และรางวัล "ธนาคารยอดเยี่ยมด้านพัฒนาบริการ Mobile Banking (Best Mobile Banking Project in Thailand)" จากมร.ฟู่บุนผิง บรรณาธิการบริหาร (ขวา) และมร.คอลิน ซาเวจ หัวหน้าฝ่ายวิจัย (ที่ 2 จากซ้าย) นิตยสารดิเอเชี่ยนแบงก์เกอร์ นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ "สินเชื่อบ้านบัวหลวง" ที่มอบข้อเสนอและสิทธิประโยชน์มากมายและหลากหลายตามความต้องการของลูกค้า และบริการ "บัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง" แอพพลิเคชั่นทันสมัยที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟนและไอแพดได้อย่างง่ายดาย สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย ทั้งนี้ The Asian Banker เป็นนิตยสารชั้นนำด้านการเงินการธนาคารในภูมิภาคเอเชีย มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นบริษัทผู้ดำเนินงานด้านการวิจัย วิเคราะห์ จัดทำรายงานข้อมูลข่าวสาร การสัมมนา ตลอดจนการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อใช้ในการกำหนดกลยุทธ์และวางแผนงานทางด้านอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร
ธนาคารกรุงเทพ รับมอบ 2 รางวัลจาก The Asian Banker "ยอดเยี่ยมผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
ที่อยู่อาศัย" และ "ยอดเยี่ยมด้านพัฒนาบริการ Mobile Banking"

25 มิถุนายน 2558

ธนาคารกรุงเทพ ประกาศศักยภาพความยิ่งใหญ่ในระดับสากลอีกครั้ง โดยล่าสุดได้รับการยกย่องจากนิตยสาร The Asian Banker ในฐานะ "ธนาคารยอดเยี่ยมด้านผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัย (Best Mortgage Product in Thailand)" และ "ธนาคารยอดเยี่ยมด้านพัฒนาบริการ Mobile Banking (Best Mobile Banking Project in Thailand)" ตอกย้ำความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ "สินเชื่อบ้านบัวหลวง" ที่มอบข้อเสนอและสิทธิประโยชน์มากมายและหลากหลายตามความต้องการของลูกค้า และบริการ "บัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง" แอพพลิเคชั่นทันสมัยที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟนและไอแพดได้อย่างง่ายดาย สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัย

ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการยกย่องจากนิตยสาร The Asian Banker นิตยสารชั้นนำด้านการเงินการธนาคารในภูมิภาคเอเชีย ในฐานะธนาคารยอดเยี่ยมด้านผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัย (Best Mortgage Product in Thailand) ในการมอบรางวัล The Excellence in Retail Financial Services Awards 2015 ด้วยผลิตภัณฑ์ "สินเชื่อบ้านบัวหลวง" ได้ผ่านหลักเกณฑ์การพิจาณาในเรื่องของข้อเสนอและสิทธิประโยชน์อันมากมายและหลากหลายตามความต้องการของลูกค้า รวมถึงความสะดวกสบายในการสมัครใช้บริการ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่น โดยสามารถขยายสินเชื่อได้สูงถึง 12% ในปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง อีกทั้งยังมีการบริหารจัดการหนี้ที่มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพลูกหนี้ที่ดี โดยมีอัตราหนี้เสียที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ด้านนางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับการยกย่องในฐานะธนาคารยอดเยี่ยมด้านพัฒนาบริการ Mobile Banking (Best Mobile Banking Project in Thailand) ในการมอบรางวัล The Asian Banker Technology Implementation Awards 2015 โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณาจากการพัฒนาฟังก์ชั่ันการใช้งานที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้เป็นอย่างดี มีการออกแบบและวางโครงสร้างระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพ ทั้งยังสามารถเชื่อมโยงกับระบบงานอื่นๆ ของธนาคารได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการควบคุมความปลอดภัยในการใช้งาน

นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ "สินเชื่อบ้านบัวหลวง" ที่มอบข้อเสนอและสิทธิประโยชน์มากมายและหลากหลายตามความต้องการของลูกค้า และ บริการ "บัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง" แอพพลิเคชั่นทันสมัยที่ธนาคารและ Fiserv บริษัทชั้นนำระดับโลกผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสำหรับธุรกิจการเงินการธนาคาร ได้
ร่วมกันพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นช่องทางให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านสมาร์ทโฟนและไอแพดได้อย่าง
ง่ายดาย สะดวกรวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูง จนได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่ใช้บริการเป็นอย่างดีและ
ส่งผลให้ที่ผ่านมาปริมาณธุรกรรมทาง Digital Banking ของธนาคารมีการเติบโตมากกว่า 100%

"The Asian Banker" มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นบริษัทผู้ดำเนินงานด้านการวิจัย วิเคราะห์ จัดทำรายงานข้อมูลข่าวสาร การสัมมนา ตลอดจนการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อใช้ในการกำหนดกลยุทธ์และวางแผนงานทางด้านอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร โดยจัดให้มีการประกาศรางวัลอันทรงเกียรติประเภทต่างๆ ที่
ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์และบริการทางเงินในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร ทั้งนี้ รางวัล The Excellence in Retail Financial Services Awards 2015 จัดขึ้นเพื่อมอบให้กับสถาบันทางการเงินที่มีความโดดเด่นด้านการ
ให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อย สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งและนำไปสู่ผลการประกอบการที่ดีอย่าง
ต่อเนื่อง ส่วนรางวัล The Asian Banker Technology Implementation Awards จัดขึ้นเพื่อมอบให้กับสถาบันการเงินและบริษัทคู่ค้าไอทีที่ร่วมกันพัฒนาระบบเทคโนโลยีสำหรับการทำธุรกรรมการเงินการธนาคารที่มีคุณสมบัติโดดเด่นเป็นเลิศ โดยได้จัดพิธีมอบรางวัลขึ้นเมื่อวันพุธที่ 24 มิถุนายน 2558 ระหว่างการประชุม Thailand International Banking Convention 2015 ณ โรงแรมเซนต์ รีจีส กรุงเทพฯ

บริการ "บัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง" (Bualuang mBanking) ครอบคลุมการทำธุรกรรมโอนเงิน ตรวจสอบยอดเงินในบัญชี รายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ชำระค่าสินค้าและบริการ รวมถึงการซื้อและขายกองทุนรวม ด้วยเมนูการใช้งานที่ง่ายไม่ซับซ้อนเพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่านสมาร์ทโฟนและไอแพด สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสมัครใช้บริการ "บัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง" ได้ง่ายๆ ที่ เครื่องบัวหลวงเอทีเอ็ม และที่สาขาธนาคารกรุงเทพ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บัวหลวงโฟน โทร.1333

ธนาคารกรุงเทพ ลงนามร่วมกับกรมบัญชีกลาง ให้บริการออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์


23 มิถุนายน 2558

นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ (ที่ 3 จากซ้าย) นางพรนิจ ตุลย์วัฒนจิต ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 2 จากซ้าย) และนายบุญสันต์ ประสิทธิ์สัมฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 3 จากขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง (กลาง) ลงนามข้อตกลงความร่วมมือให้บริการออกหนังสือค้ำประกันทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Guarantee) ผ่านธนาคารพาณิชย์ และบริการรับชำระเงินค่าซื้อเอกสารประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) เพื่อรองรับการจัดซื้อจัดจ้างระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้กับผู้ค้ากับภาครัฐ เพิ่มความเชื่อมั่นและยกระดับการให้บริการของภาครัฐ รวมทั้งเพิ่มความสะดวกและขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน และเป็นการเร่งสร้างขีดความสามารถให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้สามารถเข้าร่วมการจัดซื้อจัดจ้างกับหน่วยงานภาครัฐให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นมิติใหม่ในการให้บริการที่เป็นประโยชน์ทั้งหน่วยงานของรัฐและผู้ค้า ที่ต้องการส่งเสริมและผลักดันการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส เป็นธรรม ลดและป้องกันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้มีธนาคารพาณิชย์อีก 14 แห่ง ร่วมด้วย
ธนาคารกรุงเทพ รับมอบรางวัล Bank of the Year 2015 พร้อมรางวัลบูธดีเด่น                              ในงานมหกรรมการเงินครั้งที่ 15

18 มิถุนายน 2558

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นำทีมผู้บริหารและพนักงานร่วมฉลองความสำเร็จและรับมอบรางวัล Money & Banking Awards 2015 ในสาขา "ธนาคารแห่งปี 2558 หรือ Bank of the Year 2015" นับเป็นปีที่ 8 ตั้งแต่ปี 2550 และรางวัลดีเด่น บูธสวยงามประเภทพื้นที่ขนาดใหญ่ ในงาน Money Expo 2015 หรือมหกรรมการเงินครั้งที่ 15 จากพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และนายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงาน โดยการประกาศยกย่องจากวารสารการเงินธนาคารสำหรับความโดดเด่นในครั้งนี้ นอกเหนือจากประสิทธิภาพในการทำกำไรสุทธิสูงเป็นอันดับ 3 ของทั้งระบบธนาคารพาณิชย์แล้ว ธนาคารยัง
มุ่งเน้นในเรื่องของความแข็งแกร่งและความมั่นคงในฐานะการเงิน ที่มีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสูงสุดเป็นอันดับ 1 ถึง 89,411.51 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่ออยู่ที่ 5.02% รวมทั้งยังดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงรวมทั้งสิ้น 17.41% รวมทั้งยังมีมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นสูงเป็นอันดับ 1 ที่ 169.47 บาท ทั้งนี้ ธนาคารได้กำหนดกลยุทธ์การดำเนินงานให้สอดคล้องกับโอกาสและการเปลี่ยนแปลงที่มีอย่างต่อเนื่อง โดยผสมผสานระหว่างการบริหารงานด้วยความระมัดระวังรอบคอบเพื่อให้มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง แต่ก็พร้อมที่จะเติบโตเมื่อโอกาสเอื้ออำนวย
ธนาคารกรุงเทพ ร่วมถวายมุทิตาธรรมต่อเนื่องเป็นปีที่ 42 แก่ภิกษุสามเณรที่สำเร็จ
พระเปรียญธรรม 9 ประโยค ประจำปี 2558
17 มิถุนายน 2558

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร (ที่ 4 จากขวา) หม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคล กรรมการธนาคาร (ที่ 3 จากขวา) ดร.อมร จันทรสมบูรณ์ กรรมการธนาคาร (ที่ 4 จากซ้าย) นายอภิชาต รมยะรูป ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการบริษัท (ที่ 2 จากขวา) พร้อมผู้บริหารและพนักงาน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จัดพิธีแสดงมุทิตาธรรม เพื่อถวายเป็นมุทิตาสักการะ และร่วมแสดงความชื่นชมยินดีแก่ภิกษุสามเณร ที่ได้พากเพียร ศึกษาจนสำเร็จปริญญาบัณฑิตระดับเปรียญธรรม 9 ประโยค ตามหลักสูตรคณะสงฆ์ โดยมีพระพรหมโมลี แม่กองบาลีสนามหลวง วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งได้ประทาน พัด ย่าม ไตรจีวร และกล่าวสัมโมทนียกถาแก่พระเปรียญธรรม 9 ประโยค ซึ่งในปีนี้มีผู้สอบได้ทั้งสิ้น 49 รูป เป็นพระภิกษุ 41 รูป และสามเณร 8 รูป ทั้งนี้ธนาคารได้จัดให้มีพิธีถวายมุทิตาธรรมเป็นประจำทุกปีนับตั้งแต่ปี 2517 ติดต่อกันเป็นปีที่ 42 รวมภิกษุสามเณรที่ได้รับการแสดงมุทิตาธรรมจากธนาคาร จำนวนทั้งสิ้น 1,457 รูป เป็นพระภิกษุ 1,225 รูป สามเณร 232 รูป พร้อมกันนี้ธนาคารได้จัดให้มีการบรรยาย "ถวายความรู้ด้านการบริหารจัดการการเงินของวัดและบัญชีเบื้องต้น ครั้งที่ 2" แด่ภิกษุและสามเณรผู้สำเร็จเปรียญธรรม 9 ประโยค ตามคำเรียกร้อง เพื่อนำความรู้ไปใช้ในการบริหารงบประมาณและการบัญชีของวัดสำหรับการดำเนินโครงการเผยแพร่พระพุทธศาสนา นับเป็นกิจกรรมที่ธนาคารได้มีส่วนอุปถัมภ์บำรุงการศึกษาและกิจการของคณะสงฆ์ ธำรงรักษาศาสนวงศ์ของ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้วัฒนาสถาพรสืบไป

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธนาคารกรุงเทพ ต้อนรับนักศึกษา MBA ม.เปปเปอร์ไดน์ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปเรื่อง การลงทุนในอาเซียนและอินโดจีน

8 มิถุนายน 2558
                              

นายปิติ สิทธิอำนวย กรรมการธนาคาร (ที่ 5 จากขวา) และ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่
(ที่ 7 จากขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมให้การต้อนรับ Dr. Demos Vardiabasis อาจารย์วิชาเศรษฐศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ (ที่ 6 จากขวา) และคณะนักศึกษาระดับปริญญาโท หลักสูตร Presidents and Key Executives MBA จากมหาวิทยาลัยเปปเปอร์ดีน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหลักสูตรพิเศษสำหรับผู้บริหารระดับสูงในองค์กรธุรกิจ ในโอกาสเดินทางเข้าเยี่ยมชมกิจการ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ณ อาคารสำนักงานใหญ่ พร้อมรับฟังบรรยายพิเศษในหัวข้อ "Thailand as a Gateway to ASEAN and Indochina: Opportunities for Businesses" นับเป็นโอกาสอันดีที่ธนาคารได้นำเสนอข้อมูลความรู้
เกี่ยวกับประเทศไทยในฐานะประตูสู่ประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและอินโดจีน โอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการและนักลงทุนต่างชาติ ตลอดจนบทบาทของธนาคารกรุงเทพในฐานะสถาบันการเงินอัน
แข็งแกร่งที่พร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจ ด้วยเครือข่ายสาขาต่างประเทศ 30 แห่ง ใน 14 เขตเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก

วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ธนาคารกรุงเทพ เปิดทำการสาขาย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ พร้อมให้บริการทางการเงินสนับสนุนลูกค้าขยายธุรกิจ

3 มิถุนายน 2558


นายเดชา ตุลานันท์ รองประธานกรรมการบริหาร (ขวา) นายปิติ สิทธิอำนวย กรรมการธนาคาร (ที่ 3 จากขวา) นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ (ซ้าย) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมให้การต้อนรับ มร. มิ้นต์ ส่วย มุขมนตรีเขตย่างกุ้ง (ที่ 2 จากซ้าย) มร.จอ จอ หม่อง ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งเมียนมาร์ (ที่ 2 จากขวา) ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และนายพิษณุ สุวรรณชฎ เอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (ที่ 3 จากซ้าย) ในโอกาสให้เกียรติร่วมพิธีเปิดทำการธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาย่างกุ้ง วันอังคารที่ 2 มิถุนายน 2558 กับความภาคภูมิใจในฐานะธนาคารไทยเพียงแห่งเดียว และเป็น 1 ใน 9 ธนาคารต่างชาติที่ได้รับอนุญาตจัดตั้งสาขาในประเทศเมียนมาร์ ในการประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในรูปแบบสาขา โดยธนาคารกรุงเทพพร้อมให้บริการทางการเงินเต็มรูปแบบสนับสนุนลูกค้าขยายธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ ครอบคลุมบริการเงินฝาก สินเชื่อธุรกิจ บริการเพื่อธุรกิจส่งออกและนำเข้า บริการโอนเงินต่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แก่บริษัทต่างชาติ และธนาคารในประเทศเมียนมาร์ ทั้งในรูปเงินตราต่างประเทศและเงินสกุลเมียนมาร์จ๊าต โดยมีนายคเนศร์ บูรณสิน Senior Vice President และผู้จัดการสาขาย่างกุ้ง คอยให้บริการ ที่ตั้งสาขา เลขที่ 5 ถนนเจดีย์กะบาเอ้ เขตยัญกีณ นครย่างกุ้ง โทร. (95-1) 558-022, (95-1) 554-890
ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับแอร์เอเชียเปิดตัวบัตรเครดิต เอาใจนักช้อป นักเดินทาง มอบ
สิทธิประโยชน์ครบครัน

2 มิถุนายน 2558


นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 4 จากขวา) นางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (กลาง) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับนายนัตดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย เเอร์เอเชีย เอ็กซ์ (ที่ 4 จากซ้าย) นางสาวอลิซ โกะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AirAsia BIG (ที่ 3 จากซ้าย) และ มร. แอนโทนิโอ คอร์โร ผู้จัดการประจําประเทศไทยและพม่า มาสเตอร์การ์ด (ที่ 3 จากขวา) เปิดตัว "บัตรเครดิต แอร์เอเชีย แพลทินัม มาสเตอร์การ์ด ธนาคารกรุงเทพ" บัตรเครดิตที่เอาใจนักช้อป นักเดินทาง
ตอบโจทย์ความสะดวกสบายเรื่องการใช้จ่ายและการเดินทางในบัตรเดียว ทั้งการสะสมคะแนน BIG Points เพื่อแลกเที่ยวบินแอร์เอเชียฟรีได้ไวกว่า การแบ่งชำระ 0% แบบสบายๆ ทุกเที่ยวบิน พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆ อีก
มากมาย ภายใต้แนวคิด "ช้อปสะดวก บินสบาย คุ้มง่ายในบัตรเดียว"

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ธนาคารกรุงเทพ ร่วมต้อนรับ "เชลซี" แชมป์พรีเมียร์ลีคอังกฤษ 2014-2015 ในโอกาสเยือนไทยเพื่อร่วมแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ 30 พ.ค. นี้ 

28 พฤษภาคม 2558

ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 2 จากซ้าย) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของสโมสรฟุตบอลเชลซี ภายใต้แนวคิด "One Team One Spirit เชลซีทำได้ คนไทยทำได้" ร่วมให้การต้อนรับผู้จัดการและนักฟุตบอลทีมเชลซี นำโดย โชเซ่ มูรินโญ่ จอห์น เทอร์รี่ เอเด็น อาซาร์ เชส ฟาเบรกาส ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา บรานิสลาฟ อิวาโนวิช และอีกมากมาย ในโอกาส เดินทางมาเยือนประเทศไทยเป็นประเทศแรก หลังจากที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2014-2015 พร้อม แข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ "The Singha Chelsea FC Celebration Match, Bangkok 30 May" กับทีมไทยแลนด์ ออลสตาร์ ภายใต้การนำทีมของโค้ชขวัญใจชาวไทย ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม 2558 เวลา 18.00 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน นับเป็นโอกาสอันดีที่แฟนบอลชาวไทยจะได้ร่วมฉลองชัยชนะกับทีมเชลซีและร่วมให้กำลังใจกับทีมไทยแลนด์ ออลสตาร์ ในแมตช์ประวัติศาสตร์นี้
ธนาคารกรุงเทพ ร่วมเสวนาระดับผู้นำในการประชุมการลงทุนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

28 พฤษภาคม 2558


นายปิติ สิทธิอำนวย กรรมการธนาคาร (กลาง) นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ (ที่ 2 จากซ้าย) ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 3 จากขวา) นายกนกศักดิ์ โมกขมรรคกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ซ้าย) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ให้การต้อนรับ มร. โมะริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 3 จากซ้าย) ในโอกาสให้เกียรติอภิปรายในเวิร์คช้อปที่ธนาคารกรุงเทพเป็นเจ้าภาพในหัวข้อ "Developing a Growth Strategy for the AEC – Mitsubishi Motors" Perspective" ในงานเสวนาระดับผู้นำภายใต้กรอบหัวข้อ "Greater Mekong Investment Forum 2015" ซึ่ง จัดขึ้นโดยนิตยสารยูโรมันนี่ ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพหนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดงาน ในฐานะธนาคารพาณิชย์ที่มีเครือข่ายสาขาต่างประเทศ 30 แห่ง ใน 14 เขตเศรษฐกิจสำคัญทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้และประเทศจีน รวมทั้งความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศจีเอ็มเอสมายาวนานกว่า 50 ปี ธนาคารกรุงเทพจึงพร้อมให้การสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ด้วยความเข้าใจใน การดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศอย่างลึกซึ้ง
ธนาคารกรุงเทพ รับใบอนุญาตเปิดสาขาย่างกุ้ง จากผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งเมียนมาร์ พร้อมเปิด 2 มิ.ย. นี้
27 พฤษภาคม 2558


นายปิติ สิทธิอำนวย กรรมการธนาคาร (กลาง) นายไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 2 จากซ้าย) ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ที่ 2 จากขวา) และนายคเนศร์ บูรณสิน Senior Vice President และผู้จัดการสาขาย่างกุ้ง (ขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เข้ารับมอบใบอนุญาตจากนายจอ จอ หม่อง ผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งเมียนมาร์ ณ กรุงเนปิดอร์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ในการประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในรูปแบบสาขา เพื่อให้บริการทางการเงิน ครอบคลุมบริการเงินฝาก สินเชื่อธุรกิจ บริการเพื่อธุรกิจส่งออกและนำเข้า บริการโอนเงินต่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แก่บริษัทต่างชาติ (Foreign-invested Company) และธนาคารในประเทศเมียนมาร์ (Domestic Bank) ทั้งในรูปเงินตราต่างประเทศและเงินสกุลเมียนมาร์จ๊าต โดยธนาคารกรุงเทพพร้อมเปิดดำเนินการสาขาย่างกุ้งในวันอังคารที่ 2 มิถุนายน 2558 นับเป็นความภาคภูมิใจของธนาคารกรุงเทพที่ได้รับการประกาศให้เป็น 1 ใน 9 ธนาคารต่างชาติ และเป็นธนาคารไทยเพียงแห่งเดียว ที่ได้รับการคัดเลือกจากคุณสมบัติและแผนธุรกิจที่นำเสนอ
ธนาคารกรุงเทพ ได้รับอนุญาตเปิดสาขาย่างกุ้ง เมียนมาร์ เชื่อมโยงเครือข่ายสาขา ต่างประเทศ ให้บริการครบวงจร 

26 พฤษภาคม 2558 


ธนาคารกรุงเทพได้รับอนุญาตจากธนาคารกลางแห่งเมียนมาร์ ให้เปิดสาขาย่างกุ้งแล้ว โดยสามารถให้บริการทางการเงินแก่บริษัทต่างชาติ และธนาคารในประเทศเมียนมาร์ นับเป็นความภาคภูมิใจของธนาคารกรุงเทพในฐานะหนึ่งเดียวของธนาคารไทยที่ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากทางการของประเทศเมียนมาร์มอบใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในรูปแบบสาขา ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยส่งเสริมและพัฒนาระบบสถาบันการเงินรองรับการเติบโตของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะการเชื่อมโยงเครือข่ายสาขาต่างประเทศของธนาคารกรุงเทพ เพื่อให้บริการแบบครบวงจรแก่ลูกค้าและนักลงทุนที่เข้าไปทำธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางแห่งเมียนมาร์ได้มอบใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในรูปแบบสาขาแก่ธนาคารกรุงเทพแล้ว โดยธนาคารพร้อมเปิดดำเนินการสาขาย่างกุ้ง ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ในวันอังคารที่ 2 มิถุนายน 2558 เพื่อให้บริการทางการเงิน ครอบคลุมบริการเงินฝาก สินเชื่อธุรกิจ บริการเพื่อธุรกิจส่งออกและนำเข้า บริการโอนเงินต่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แก่บริษัทต่างชาติ (Foreign-invested Company) และธนาคารในประเทศเมียนมาร์ (Domestic Bank) ทั้งในรูปเงินตราต่างประเทศและเงินสกุลเมียนมาร์จ๊าต โดยมีนายคเนศร์ บูรณสิน SVP และผู้จัดการสาขาย่างกุ้ง และคุณทศทิศ รอดประเสริฐ AVP และผู้จัดการฝ่ายการตลาด สาขาย่างกุ้ง พร้อมให้บริการ ภายหลังจากที่ธนาคารกรุงเทพได้รับการประกาศให้เป็น 1 ใน 9 ธนาคารต่างชาติ และเป็นธนาคารไทยเพียงแห่งเดียว ที่ได้รับการคัดเลือกจากคุณสมบัติและแผนธุรกิจที่นำเสนอ ให้ได้รับอนุญาตในหลักการให้เปิดสาขาในประเทศเมียนมาร์ได้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2557 โดยให้เตรียมการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขต้องเปิดสาขาใน ประเทศเมียนมาร์ภายใน 1 ปีนั้น ธนาคารได้ดำเนินการต่างๆ เรียบร้อยแล้วทุกประการ ตั้งแต่การตกแต่งสถานที่ทำการ การติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบงานต่างๆ การสรรหาบุคลากรและจัดจ้างพนักงานท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาศักยภาพของพนักงานท้องถิ่นด้วยการฝึกอบรมเกี่ยวกับระบบงานและผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ จนในปัจจุบัน ธนาคารกรุงเทพได้รับใบอนุญาตให้สามารถเปิดดำเนินการสาขาย่างกุ้งแล้วในที่สุด นายชาติศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารกรุงเทพได้เปิดสำนักงานตัวแทนในประเทศเมียนมาร์ตั้งแต่ปี 2538 หรือกว่า 20 ปี โดยมีบทบาทสำคัญในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยน์และอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าธนาคารที่มีความสนใจลงทุนและทำธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ หลักจากที่สาขาย่างกุ้งเปิดดำเนินการแล้ว สามารถให้บริการเงินฝาก สินเชื่อ สินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ การแลกเปลี่ยนเงินตรา การโอนเงินภายในและระหว่างประเทศ และบริการธนาคารพาณิชย์พื้นฐานอื่นๆ แก่ลูกค้าเป้าหมายที่เป็นบริษัทต่างชาติ (Foreign-invested Company) และธนาคารในประเทศเมียนมาร์ (Domestic Bank) อีกทั้งยังมีบทบาทในการเชื่อมโยงเครือข่ายสาขาต่างประเทศทั้งหมดที่ธนาคารมีอยู่ เพื่อให้บริการแบบครบวงจรและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่เข้ามาทำธุรกิจในเมียนมาร์ได้ดียิ่งขึ้นด้วย สำหรับบทบาทอื่นๆ ของธนาคารกรุงเทพในประเทศเมียนมาร์ นายชาติศิริกล่าวเสริมว่า สาขาย่างกุ้งจะมีส่วนร่วมในการช่วยส่งเสริมและพัฒนาระบบสถาบันการเงินของประเทศเมียนมาร์ในด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาตลาดการกู้ยืมเงินระหว่างธนาคาร (Interbank Market) และการพัฒนาตลาดเงินตราต่างประเทศให้เป็นสากล เพื่อรองรับการเติบโตของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในอนาคต นอกจากนี้ ด้วยเจตจำนงที่จะมีส่วนร่วมในการ สนับสนุนพัฒนาการที่ยั่งยืนของประเทศเมียนมาร์ ธนาคารกรุงเทพยังได้ริเริ่มจัดงานสัมมนาและกิจกรรมต่างๆ ในการให้ความรู้ทางเศรษฐกิจและธุรกิจแก่ลูกค้าทุกกลุ่มในประเทศเมียนมาร์ ทั้งลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้าผู้ประกอบการ SME สนับสนุนด้านการศึกษาโดยเฉพาะการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนในสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความรู้กับธนาคารในประเทศเมียนมาร์ สนับสนุนการสร้างเครือข่าย และจับคู่ทางธุรกิจระหว่างลูกค้าที่มีศักยภาพที่จะร่วมมือกันต่อไป และล่าสุดธนาคารได้ริเริ่มจัดทำรายการโทรทัศน์ Idea Can Do เพื่อส่งเสริมการประกอบธุรกิจในระดับ SME ซึ่งมีรูปแบบและหลักการเดียวกับรายการโทรทัศน์ เพื่อนคู่คิด ของธนาคารกรุงเทพในประเทศไทย โดยเผยแพร่ในรายการ Good Morning Myanmar รายการเล่าข่าวยอดนิยมทาง Channel 7 ของประเทศเมียนมาร์ ธนาคารยังคงมุ่งมั่นในความเป็น "เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน" ที่พร้อมเสริมสร้างความสำเร็จเคียงข้างลูกค้า ด้วยเล็งเห็นโอกาสและให้ความสำคัญกับการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย ทั้งธุรกิจไทยและธุรกิจข้ามชาติที่เข้าไปประกอบธุรกิจและลงทุนในภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และภาคบริการ อีกทั้งขยายการให้บริการไปยังคู่ค้าของลูกค้าปัจจุบัน ผ่านเครือข่ายสาขาในต่างประเทศ 30 แห่ง ครอบคลุม 14 เขตเศรษฐกิจทั่วโลกที่เปิดให้บริการมาด้วยระยะเวลาที่ยาวนาน มีบุคลากรท้องถิ่นที่มีความสัมพันธ์ ประสบการณ์ ความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับตลาดท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ในการเชื่อมโยงเครือข่าย นักลงทุน นักการเงิน และผู้ประกอบการให้เป็นคู่ค้าทางธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจของลูกค้าในแต่ละกลุ่มเติบโตและพร้อมสำหรับโอกาสและสิ่งท้าทายในอนาคต
ธนาคารกรุงเทพ ได้รับยกย่องจาก Global Finance ติดต่อกันเป็นปีที่ 8 ในฐานะธนาคารยอดเยี่ยมด้านการให้บริการ Sub-custodian 
21 พฤษภาคม 2558 

ธนาคารกรุงเทพประกาศศักยภาพมาตรฐานการให้บริการระดับสากล ล่าสุดได้รับการยกย่องจาก Global Finance นิตยสารการเงินการธนาคารชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ในฐานะธนาคารยอดเยี่ยมแห่งปี ด้านการให้บริการรับฝากหลักทรัพย์ (Sub-custodian) ในประเทศไทย นับเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน ตอกย้ำ ความเป็นเลิศด้านการให้บริการด้วยทีมงานมืออาชีพที่มากด้วยประสบการณ์ และได้รับการยอมรับจากกลุ่มลูกค้า นางพรนิจ ตุลย์วัฒนจิต ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน ที่ธนาคารกรุงเทพได้รับการยกย่องจาก Global Finance นิตยสารการเงินการธนาคารชั้นนำซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ในฐานะธนาคารยอดเยี่ยมประจำปี 2558 ด้านการให้บริการรับฝากหลักทรัพย์ (Sub-custodian) ในประเทศไทย ด้วยจุดเด่นด้านคุณภาพของการให้บริการ การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ระบบเทคโนโลยีรองรับที่มีมาตรฐานและทันสมัยที่สุด รวมไปถึงการกำหนดแผนรองรับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นธนาคารไทยที่สามารถให้บริการรับฝากทรัพย์สินเต็มรูปแบบกับสถาบันการเงินต่างประเทศ และสถาบันการเงินไทย โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ธนาคารกรุงเทพ สาขาเวียงจันทน์ ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ลาว สำหรับการเป็นผู้ให้บริการรับฝากทรัพย์สินเต็มรูปแบบรายแรกและรายเดียวในประเทศสปป.ลาว ซึ่งปัจจัยต่างๆดังกล่าวล้วนแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและมาตรฐานการดำเนินงานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 ทรัพย์สินของลูกค้าที่อยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารกรุงเทพเป็นลูกค้าในประเทศประมาณ 75% และลูกค้าต่างประเทศประมาณ 25% โดยธนาคารกรุงเทพเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการให้บริการรับฝากทรัพย์สินมากว่า 28 ปี ลูกค้าที่ใช้บริการ ประกอบด้วย กองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นักลงทุนสถาบัน และสถาบันการเงินต่างประเทศ โดยธนาคารให้บริการรับฝากหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท Asset Class จากตลาดทุนในประเทศไทยและตลาดทุนต่างประเทศ ในรูปแบบใบหลักทรัพย์ (Scrip) และแบบไร้ใบ (Scripless) อีกทั้งมีช่องทางการรับคำสั่งที่หลากหลาย ปลอดภัยและทันสมัย นอกจากนี้ ยังมีช่องทางเพิ่มเติมให้ลูกค้าสามารถดูรายงานผ่านบริการบัวหลวง ไอคัสโตดี (Bualuang iCustody) ที่ธนาคารพัฒนาขึ้นในรูปแบบของ Web-based เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา มร.โจเซฟ เกียลาพูโต บรรณาธิการ นิตยสาร Global Finance เปิดเผยว่า สถาบันผู้ให้บริการรับฝากทรัพย์สิน ทั้งหลายต้องเผชิญกับกระบวนการตรวจสอบที่เพิ่มมากขึ้นจากลูกค้าที่เป็นสถาบันการเงินในต่างประเทศ ทั้งบริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ผู้รับฝากทรัพย์สินในต่างประเทศ และผู้จัดการกองทุน ซึ่งเป็นผลพวงจากกระแสต่อต้านการฟอกเงินทั่วโลกและกฎระเบียบด้านการตรวจสอบคัดกรองลูกค้า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สถาบันการเงินในต่างประเทศมองหาธนาคารที่สามารถให้บริการรับฝากทรัพย์สินที่ปลอดภัยที่สุดและมีความรู้เชิงลึกมากที่สุดในตลาดทุนของประเทศนั้น ๆ รวมถึงกฎข้อบังคับต่างๆ โดยเราได้พิจารณามอบรางวัลให้กับธนาคารทั้งหลายที่ให้บริการด้านดูแลรับฝากทรัพย์สินได้ดีที่สุดในตลาดทั่วโลกที่มีความยุ่งยากซับซ้อนเพิ่มขึ้นในยุคปัจจุบัน ทั้งนี้ พิธีมอบรางวัลจะจัดขึ้นในวันพุธที่ 14 ตุลาคม 2558 ระหว่างการประชุม SIBOS (Swift International Banking Operations Seminar) ณ โรงแรมมารีน่า แมนดาริน ประเทศสิงคโปร์

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558



ธนาคารกรุงเทพ ตอกย้ำความสำเร็จบริการ "บัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง" เลือกใช้
"ก้อง สหรัถ" แนะนำบริการดีๆ ที่จัดการได้ด้วยแอพเดียว
12 พฤษภาคม 2558

นางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (ซ้าย) พร้อมนางสุวรรณา อุษณาจิตต์ เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Senior Vice President การตลาดและโฆษณาผลิตภัณฑ์ธนาคาร ฝ่ายผลิตภัณฑ์และช่องทางบริการ (ขวา) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ร่วมให้การต้อนรับ นายสหรัถ สังคปรีชา โค้ชก้อง ศิลปินนักร้องนักแสดงในฐานะพรีเซ็นเตอร์บริการบัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง (กลาง) ในโอกาสร่วมกิจกรรมแนะนำบริการดีๆ ทางการเงิน
"บัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง" (Bualuang mBanking) ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายได้ในแอพเดียว ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงิน ผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง อาทิ เช็คยอด โอนเงิน เติมเงิน จ่ายบิล และซื้อ-ขายหน่วยลงทุน ด้วยเมนูการใช้งานที่ง่ายไม่ซับซ้อน และมีความปลอดภัยสูง โดยธนาคารได้มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพและความหลากหลายของบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่าง
ต่อเนื่อง จนได้รับการตอบรับจากลูกค้าที่มาใช้บริการเป็นอย่างดีส่งผลให้ที่ผ่านมาปริมาณธุรกรรมทาง iBanking และ mBanking ของธนาคารมีการเติบโตมากกว่า 100% สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสมัครใช้บริการ "บัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง" ได้ง่ายๆ ที่เครื่องบัวหลวงเอทีเอ็ม และสาขาธนาคารกรุงเทพ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่บัวหลวงโฟน โทร.1333 โดยสามารถชมคลิปวีดีโอโฆษณา "โค้ชก้อง" ได้ทาง www.bangkokbank.com/mbankingหรือทาง YouTube/BangkokBankChannel



ธนาคารกรุงเทพ มอบส่วนลด 10% เมื่อใช้บัตรเครดิตและบีเฟิสต์ ซื้อบัตรชมฟุตบอล
นัดพิเศษ เชลซี vs ไทยแลนด์ออลสตาร์ 30 พ.ค. นี้
11 พฤษภาคม 2558

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของสโมสรฟุตบอลเชลซี ภายใต้แนวคิด "One Team One Spirit เชลซีทำได้ คนไทยทำได้" มอบส่วนลดพิเศษ 10% ทันที (จำกัดสิทธิสูงสุด 4 ที่นั่งต่อบัตร) เมื่อลูกค้าซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษ "The Singha Chelsea FC Celebration Match, Bangkok 30 May" ผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตบีเฟิสต์ทุกประเภทของธนาคารกรุงเทพ ตั้งแต่วันนี้-30 พฤษภาคม 2558 หรือจนกว่าบัตรจะหมด นับเป็นโอกาสสุดพิเศษที่จะได้ชมแมตซ์ประวัติศาสตร์ระหว่างทีมสิงโตน้ำเงินคราม เชลซีที่เดินทางมาเยือนไทยเป็นประเทศแรกและเป็น 1 ใน 2 ประเทศเท่านั้น หลังทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2014-2015 พร้อมดวลแข้งกระชับมิตรกับทีมไทยแลนด์ออลสตาร์ ภายใต้การนำทีมของโค้ชขวัญใจชาวไทย ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม 2558 เวลา 18.00 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยบัตรเข้าชมจำหน่ายแล้วที่เคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา และ www.thaiticketmajor.com ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บัวหลวงโฟน โทร.1333


ธนาคารกรุงเทพ มอบรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซคันแรกแก่ลูกค้าผู้โชคดี จากแคมเปญ "จ่าย เติม จัดเต็ม ลุ้น JAZZ ทุกเดือน"
2 พฤษภาคม 2558

ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) มอบรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ 2014 มูลค่า 576,000 บาท แก่นางจันทร์ทิพย์ เมฆเฉลย ลูกค้าผู้โชคดีท่านแรกที่ได้รับรางวัลที่ 1 จากแคมเปญ "จ่าย เติม จัดเต็ม ลุ้น JAZZ ทุกเดือน กับธนาคารกรุงเทพ" ด้วยการทำรายการชำระค่าสินค้าและบริการ หรือเติมเงิน ผ่านช่องทางของธนาคารกรุงเทพ ได้แก่ เคาน์เตอร์สาขา บัวหลวง เอทีเอ็ม บัวหลวง
ไอแบงก์กิ้ง และบัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง ทั้งนี้ ลูกค้าที่ทำรายการที่เคาน์เตอร์สาขาจะได้รับคูปอง 1 ใบต่อรายการ เพื่อหย่อนลงกล่องรับชิ้นส่วน ณ ที่ทำการสาขา และลูกค้าที่ทำรายการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เพียงลงทะเบียนผ่านระบบ SMS โดยพิมพ์ BP ตามด้วยเลขที่บัญชี 10 หลัก ส่งมาที่ 4712099 เพื่อเข้าร่วมรายการโดยรับ 3 สิทธิ์จากทุกการทำรายการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ร่วมลุ้นรางวัลมากมาย มูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,144,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พฤษภาคม 2558 โดยครั้งที่ 2 จะจับรางวัลวันที่ 24 เมษายน 2558 ครั้งที่ 3 จับรางวัล
วันที่ 22 พฤษภาคม 2558 และครั้งที่ 4 จับรางวัลวันที่ 22 มิถุนายน 2558 สอบถามเพิ่มเติม โทร.1333


ธนาคารกรุงเทพ ชวนลูกค้าบัตรเครดิตร่วมช่วยเหลือชาวเนปาล แลกคะแนนสะสมเป็น
เงินบริจาค โดยธนาคารร่วมสมทบเพิ่มเท่าจำนวน
30 เมษายน 2558

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เชิญชวนลูกค้าบัตรเครดิตเปลี่ยนคะแนนสะสมบัวหลวง ทุก 1,000 คะแนน แทนเงินบริจาค 100 บาท โดยธนาคารกรุงเทพ ร่วมสมทบทุนเพิ่มอีก 100 บาท หรือเท่ามูลค่าเงินบริจาค เพื่อนำส่งไปยังสภากาชาดไทย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวประเทศเนปาล ผู้ถือบัตรสามารถตรวจสอบคะแนนสะสมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2638-4000 กด 1522 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 กรกฎาคม 2558 โดยธนาคารได้จัดเตรียมเงินจำนวน 2,000,000 บาท สำหรับร่วมสมทบเป็นเงินบริจาคในโครงการนี้ นับเป็น
อีกหนึ่งกิจกรรมที่ธนาคารได้ดำเนินการต่อจากการเปิดบัญชีกระแสรายวันชื่อบัญชี "ช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ ประเทศเนปาล" เลขที่ 101-3-45555-3 สำนักงานใหญ่สีลม รองรับเงินบริจาคจากลูกค้าและประชาชนทั่วไปผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคาร ประกอบด้วย เคาน์เตอร์สาขาทั่วประเทศ ตู้เอทีเอ็ม เครื่องรับฝากเงินสดอัตโนมัติ (CDM) บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง (ธนาคารทางอินเตอร์เน็ต) และบัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง (ธนาคารทาง
มือถือ) พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมในการทำรายการโอนเงินข้ามเขตในบัญชีดังกล่าว ทั้งนี้ผู้มีจิตศรัทธาสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการบัวหลวงโฟน โทร.1333


ธนาคารกรุงเทพ นำลูกค้าผู้โชคดีชมฟุตบอลบิ๊กแมตช์ เชลซีพบแมนยู ณ สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ประเทศอังกฤษ
28 เมษายน 2558

ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ (กลาง) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นำคณะลูกค้า
ผู้โชคดีจำนวน 20 ท่าน ที่ได้รับรางวัลที่ 1 จากแคมเปญ "เชียร์สุดสปิริตที่สแตมฟอร์ด บริดจ์" เข้าชมการ
แข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก บิ๊กแมตช์ ระหว่างทีมสโมสรเชลซี พบ ทีมสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ณ สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันเสาร์ที่ 18 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา พร้อมเยี่ยมชมธนาคารกรุงเทพ สาขาลอนดอน เครือข่ายสาขาต่างประเทศลำดับที่ 4 ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 58 ปี และปัจจุบันเป็นธนาคารไทยแห่งเดียวที่เปิดให้บริการที่ประเทศอังกฤษ รวมถึงชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในประเทศอังกฤษเป็นเวลา 6 วัน 5 คืน ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของสโมสรฟุตบอลเชลซี ภายใต้แนวคิด "One Team One Spirit เชลซีทำได้ คนไทยทำได้" ที่สื่อถึงความมีสปิริต ที่ใช้ความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในทีมเพื่อเดินหน้าสู่ความสำเร็จตามที่หวังไว้ โดยผู้โชคดีอีก 20 ท่าน จากแคมเปญเดียวกันเตรียมพร้อมเดินทางเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก บิ๊กแมตช์ ระหว่างทีมสโมสรเชลซี พบ ทีมสโมสรลิเวอร์พูล ในวันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม 2558 เช่นเดียวกัน


ธนาคารกรุงเทพ เปิดบัญชีรองรับการโอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวประเทศเนปาล
27 เมษายน 2558

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการเปิดบัญชีกระแสรายวันชื่อบัญชี "ช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ ประเทศเนปาล" เลขที่ 101-3-45555-3 สำนักงานใหญ่สีลม รองรับเงินบริจาคจากลูกค้าและประชาชนทั่วไปผ่าน
ช่องทางต่างๆ ของธนาคาร ประกอบด้วย เคาน์เตอร์สาขาทั่วประเทศ ตู้เอทีเอ็ม เครื่องรับฝากเงินสดอัตโนมัติ (CDM) บัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง (ธนาคารทางอินเทอร์เน็ต) และบัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง (ธนาคารทางมือถือ) 
โดยธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมในการทำรายการโอนเงินข้ามเขตในบัญชีดังกล่าว ทั้งนี้ผู้มีจิตศรัทธาสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการบัวหลวงโฟน โทร.1333


ธนาคารกรุงเทพ สนับสนุนสินเชื่อกลุ่มดีสโตน กว่า 2.5 พันล้านบาท ขยายฐานการผลิตยางรถยนต์ส่วนบุคคลสู่ 10 ล้านเส้นต่อปี
20 เมษายน 2558

ธนาคารกรุงเทพสนับสนุนสินเชื่อวงเงินกว่า 2.5 พันล้านบาท แก่กลุ่มบริษัท ดีสโตน ผู้ผลิตยางเพื่อยานพาหนะยักษ์ใหญ่แห่งประเทศไทย รองรับการปรับแผนกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก ขยายฐานกำลังการผลิตยางรถยนต์ส่วนบุคคลให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด จากจำนวน 7.5 ล้านเส้นสู่ 10 ล้านเส้นในปี 2558

นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินจำนวนกว่า 2.5 พันล้านบาทให้แก่กลุ่มบริษัท ดีสโตน ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทและแผนการดำเนินธุรกิจที่มีทิศทางชัดเจน ทั้งยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้กระจายไปสู่ทุกวงการทั้งภาคการเกษตร ภาคแรงงาน ภาคอุตสาหกรรม นำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับประเทศ ด้วยศักยภาพทางการตลาดของกลุ่มบริษัท ดีสโตน และแนวโน้มอุตสาหกรรมการผลิตยางรถยนต์ที่เติบโตอย่าง
ต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารเชื่อมั่นว่ากลุ่มบริษัท ดีสโตน จะสามารถนำเงินที่ได้รับไปใช้ให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายการขยายธุรกิจที่แข็งแกร่ง การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน

นายสุวิทย์ วงศาริยวานิช ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดีสโตน กล่าวว่า ภายในปี 2558 บริษัทได้ปรับแผนกลยุทธ์การตลาดเชิงรุก ในการขยายฐานกำลังการผลิตยางประเภทเรเดียล (Radial) เพื่อรถยนต์ส่วนบุคคลให้ได้จำนวนมากกว่า 10,000,000 เส้นต่อปี โดยคิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท ซึ่งได้ลงทุนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 6,500 ล้านบาท และเม็ดเงินลงทุนเพิ่มเติมอีกไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาท สำหรับใช้ขยายโรงงานในเฟสที่ 3 ที่เป็นส่วนของบริษัท สวิซซ์-วัน คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานแห่งที่ 4 ของกลุ่มบริษัท ดีสโตน ให้สามารถขยายกำลังการผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดที่มียอดสั่งซื้อเข้ามาแล้วในปัจจุบัน โดยเป็นการผลิตเพื่อส่งออกไปมากกว่า 115 ประเทศทั่วโลก จำนวนมากกว่า 80% ของสินค้าทั้งหมด

ปัจจุบันกลุ่มบริษัท ดีสโตน ได้มีการจัดตั้งโรงงานทั้งหมด 5 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท ดีสโตน จำกัด บริษัท ดีรับเบอร์ จำกัด บริษัท ดีสโตน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท สยามทรัค เรเดียล จำกัด และบริษัท สวิซซ์-วัน คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวนเจ้าหน้าที่มากกว่า 10,000 คน มีกำลังการผลิต 7,000,000 เส้นต่อปี ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะสามารถทำให้เพิ่มกำลังการผลิตได้ 10,000,000 เส้นต่อปี

"เราเชื่อมั่นถึงความต้องการที่ได้รับการตอบรับจากทั่วโลก ทำให้เราตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตสู่เป้าหมาย
ดังกล่าว นับเป็นความร่วมมือและการสนับสนุนทางการเงินของธนาคารกรุงเทพที่มีให้กับกลุ่มบริษัทดีสโตน ซึ่งจะทำให้เราบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้อย่างแน่นอน" นายสุวิทย์กล่าว

ที่มา:http://www.bangkokbank.com/BangkokBankThai/AboutBangkokBank/AboutUs/MediaRoom/2015/April/Pages/PressRelease20Apr2015.aspx
ธนาคารกรุงเทพ รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2558 จำนวน 9,407 ล้านบาท
21 เมษายน 2558

ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 22.8 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9


ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2558 จำนวน 9,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 442 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.9 จากไตรมาส 1 ปี 2557 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 168 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.2
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 2,142 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.7 และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 964 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.2

ในไตรมาส 1 ปี 2558 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังเป็นไปอย่างช้าๆ เนื่องจากการส่งออกสินค้าได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าโดยเฉพาะจีน ประกอบกับการลงทุนในภาคเอกชนขยายตัวอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากรอความชัดเจนของมาตรการเศรษฐกิจและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ขณะเดียวกันการบริโภคของภาคเอกชนยังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อความต้องการสินเชื่อ ประกอบกับการที่สถาบันการเงินมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 1,774,253 ล้านบาท ลดลง 7,980 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.4 จากสิ้นเดือนธันวาคม 2557

ด้านคุณภาพสินเชื่อ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 47,473 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,427 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2557 อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่ออยู่ที่ร้อยละ 2.2 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.1 ณ สิ้นปี 2557 เนื่องจากลูกค้าบางรายได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ในไตรมาส 1 นี้ ธนาคารมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 2,980 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารมีอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพคิดเป็นร้อยละ 189.9 และมีอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อรวมที่ร้อยละ 5.1

ธนาคารมีเงินรับฝากจำนวน 2,117,969 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 เพิ่มขึ้น 59,190 ล้านบาท หรือ
ร้อยละ 2.9 จากสิ้นปี 2557 และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากลดลงจากร้อยละ 86.6 ณ สิ้นปีก่อน เป็นร้อยละ 83.8

ในไตรมาส 1 ปี 2558 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 14,235 ล้านบาท และมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.18 ลดลงจากร้อยละ 2.32 ในไตรมาส 4 ปี 2557 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากต้นทุนและปริมาณเงินฝากเพิ่มขึ้นมากกว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนสินเชื่อและปริมาณสินเชื่อ และอัตราผลตอบแทนจาก
การลงทุนในเงินลงทุนและรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินลดลง

ธนาคารมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจำนวน 10,813 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,142 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.7 จาก
ไตรมาส 1 ปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 1,188 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.8 โดยรายได้ที่เติบโตสูงมาจากค่าธรรมเนียมจากการรับประกันการจัดจำหน่ายตราสารทางการเงิน ธุรกิจหลักทรัพย์ และการให้บริการสินเชื่อ

ธนาคารมีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานจำนวน 10,376 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 964 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.2 จากไตรมาส 1 ปีก่อน ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ธนาคารมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานเท่ากับไตรมาส 1 ปีก่อนที่ร้อยละ 41.4

ด้านเงินกองทุน หากนับรวมกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2557 และกำไรสุทธิใน
ไตรมาส 1 ปี 2558 เข้าเป็นเงินกองทุน หักด้วยเงินปันผลที่จะจ่ายในเดือนพฤษภาคม 2558 อัตราส่วนเงิน
กองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยจะอยู่ในระดับประมาณร้อยละ 18.3 ร้อยละ 16.2 และร้อยละ 16.2 ตามลำดับ

ส่วนของเจ้าของ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 มีจำนวน 333,829 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.8 ของสินทรัพย์รวม และมูลค่าตามบัญชีเท่ากับ 174.89 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 5.42 บาท จากสิ้นปี 2557

ที่มา:http://www.bangkokbank.com/BangkokBankThai/AboutBangkokBank/AboutUs/MediaRoom/2015/April/Pages/PressRelease21Apr2015.aspx